Wednesday, January 5, 2011

แมลงวันในครอบแก้ว โดยคุณตัน ภาสกร นที...

บทความเรื่องแมลงวันในครอบแก้ว
แมลงวันในครอบแก้ว เวลานี้ของปีบรรยากาศรอบตัวดูเหมือนดูผ่อนคลายลงเมื่อเทียบกับช่วงเวลาอื่น คงเป็นเพราะหลายองค์ประกอบที่ลงตัว เช่นระยะเวลาของโปรเจ็คประจำปีทั้งหลายกำลังจะสิ้นสุดพร้อมกับเดือนสุดท้ายของปีที่กำลังจะผ่านพ้นไป ผลงานความทุ่มเทในการทำงานของคุณตลอดปีที่ผ่านมากำลังได้รับการพิจารณาโดยมีสเกลของโบนัสประจำปีเป็นรางวัลที่หลายคนรอคอย ไหนจะบรรยากาศครึกครื้นจากเสียงเพลงประจำเทศกาลที่ดังขึ้นตามศูนย์การค้าต่างๆ พร้อมกับลมหนาวที่เริ่มจะส่งสัญญาณผ่านเข้ามาเบาๆ ในขณะที่บรรยากาศต่างๆ กำลังรื่นเริงเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลอง แต่ในขณะเดียวกันก็คงมีคนจำนวนไม่น้อยที่ไม่รู้สึกถึงความสุขเหล่านั้นแม้แต่น้อย



ในช่วงเวลาที่งานเลี้ยงรื่นเริงกำลังเริ่มต้นขึ้น บ่าของหลายต่อหลายคนกลับกำลังแอ่นรับกับปัญหาที่พัวพันมานานจนแทบจะมองไม่เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ การวางแผนชีวิตที่ผิดพลาดอาจเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาแรก และเมื่อพยายามแก้ปัญหาแรกด้วยวิธีการที่ไม่ถูกต้องก็เป็นชนวนให้เกิดปัญหาที่ 2-3-4 ตามมาแบบไม่รู้จบ สาเหตุหนึ่งอาจเป็นเพราะเราติดกรอบความคิดของตัวเอง ถ้าเราเกาไม่ถูกที่คัน ปัญหามันก็ยังเป็นปัญหาวันยังค่ำ เวลาที่เราวิ่งวุ่นอยู่กับการแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาจนไม่มีเวลาคิดสร้างสรรค์งานใหม่ๆ ดูๆ ไปก็เหมือนแมลงวันที่ถูกใครซักคนไล่จับด้วยการเอาแก้วใสไปครอบมันไว้ เคยสังเกตไหมครับว่าพวกมันจะพยายามบินออกไปข้างนอกให้ได้โดยไม่สังเกตเลยว่ามีผนังแก้วครอบตัวเองอยู่ เมื่อมองไม่เห็นก็จะพุ่งเข้าชนอยู่อย่างนั้น ทำแบบนั้นไปนานๆ เข้ามันก็จะหมดแรงและตายไปในที่สุด

ดูคล้ายกับคนเราเมื่อเวลาพยายามจะแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่ตรงหน้า แต่กลับไม่รู้ว่าจุดบอดของตัวเองคืออะไร ก็เลยไม่สามารถทะลุผ่านเจ้าปัญหานั้นไปได้ซักที จุดบอดของบางคนอาจหมายถึงการขาดระเบียบวินัยในการทำงาน ผัดวันประกันพรุ่ง งานนี้ไม่เสร็จงานใหม่ก็เข้ามา งานเข้ามากขึ้นก็จับต้นชนปลายไม่ถูก กลายเป็นดินที่พอกคลุมอยู่ทั้งตัวจนมองเป็นหมูไร้อนาคต บางคนอาจะมีจุดบอดเรื่องการใช้เงินเกินตัว ในกระเป๋ามีบัตรเครดิตให้เลือกนับสิบใบ แต่ทุกใบกลับไม่สามารถใช้ได้เพราะวงเงินเต็มไปหมดแล้ว

ในขณะที่บางคนมีปัญหาเรื่องแฟนไม่ได้ดั่งใจทะเลาะกันทีไรพาลไม่มีจิตใจทำงานทุกที ถ้าหากเราไม่รู้ว่าจุดบอดของเราอยู่ตรงไหน แต่ดันทุรังทุ่มเทกำลังเดินก้าวต่อไปข้างหน้าโดยที่มีกำแพงแก้วครอบไว้อยู่ แล้วเราจะเดินไปได้ไกลอีกแค่ไหน การที่เราจะเดินไปถึงจุดหมายของชีวิตได้ต้องอาศัยปัจจัยมากมาย บางคนมีความคิดที่ดีแล้วก็ต้องอาศัยความสามารถลงมือทำไปให้ถึงเป้าหมาย แต่บางครั้งเมื่อมีเป้าหมายแล้วก็ยังต้องอาศัยเครื่องมือเพื่อเป็นแรงส่งเราไปให้ถึงให้ได้ ความคิดมีระยะห่างกับความเป็นจริงเสมอ ระหว่างระยะทางนั้นมีจุดบอดเป็นครอบแก้วบางๆ ที่เรามองไม่เห็น อยู่ที่เราจะหาเจอแล้วทำลายจุดบอดนี้ไปได้หรือไม่

บรรยากาศผ่อนคลายในช่วงใกล้เทศกาลสิ้นปีแบบนี้ หาเวลานั่งเงียบๆ ทบทวนตัวเราเองดูว่าชีวิตของเรามีจุดบอดไหม ถ้าตอบว่าไม่มี นั่นเป็นเพราะไม่มีจริงๆ หรือยังหาจุดบอดของตัวเองไม่เจอ ถ้าคิดว่าหาจุดบอดนั้นเจอแล้ว เราจะทำลายครอบแก้วนั้นได้อย่างไรเพื่อเดินต่อไปให้ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้

คุณหาจุดบอดของตัวเองได้หรือยังครับ

สวัสดีปีใหม่ครับ

ได้รับความอนุเคราะห์ข้อมูลจาก
คุณตัน ภาสกร นที

บทความนี้ได้รับการสงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539. สามารถนำไป Share ต่อใน facebook และโลก Online ได้ทั้งหมด ขอสงวนลิขสิทธิ์ในการนำไปตีพิมพ์เพื่อธุรกิจหรือการค้า

No comments:

Post a Comment