Thursday, February 24, 2011

แม่ครัวหัวใจอารี

เหตุการณ์วันนั้นมันทำให้ป้าเห็นภาพอะไรชัดเจนมากขึ้น กับนักศึกษาที่มีฐานะยากจน แต่ต้องเดินทางมาเรียนในกรุงเทพฯ ต้องใช้ชีวิตในเมืองหลวง เจอกับปัญหาค่าใช้จ่ายมากมาย เวลาไม่มีเงิน แล้วหิวจะทนได้ไหม แล้วจะทำอย่างไร ป้าเริ่มคิด แล้วคิดว่า เราขายข้าว เรามีกำลัง เด็กคนไหนไม่มีเงินซื้อข้าวเดินเข้ามาหาป้าได้เลย ป้าทำให้กิน ป้าแค่อยากจะช่วยให้เขาสบายท้องเวลาเรียนจะได้ไม่ต้องกลุ้มใจ แขวนท้องไส้จะขาด ป้าเล็ก บอก 

ที่คนมักพูดกันว่า "น้ำใจไม่เคยจางหายไปจากสังคมไทย" ดูท่าจะเป็นเรื่องจริงอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะเรื่องราวของ "ป้าเล็ก" แห่งคณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่จะนำเสนอต่อไปนี้ ก็ยิ่งตอกย้ำคำ ๆ นี้ให้หนักแน่นมากยิ่งขึ้น 



เชื่อเลยว่า ไม่มีคณาอาจารย์ หรือนักศึกษาคนไหนในคณะวนศาสตร์ ไม่รู้จัก "ป้าเล็ก" ศรีสะอาด หนูใจคง ผู้ประกอบอาชีพขายกับข้าว อยู่ในรั้วนนทรีมานานกว่า 40 ปีแล้ว แต่ระยะเวลาที่ยาวนานเกือบครึ่งศตวรรษ ไม่ใช่เหตุผลที่ทำให้ทุกคน รู้จักป้าเล็ก เพราะเหตุผลจริง ๆ ที่ป้าเล็ก เป็นที่กล่าวขานไปทั่ว ในหมู่นักศึกษาก็คือ ความมีน้ำจิตน้ำใจของเธอเอง ในฐานะ "แม่ครัวหัวใจอารี"

Wednesday, February 23, 2011

เดินวันละ 10,000 ก้าว เผาผลาญพลังงาน 500 แคลอรี่


ผลการวิจัยพบว่าการเดิน 10,000 ก้าวใน 1 วัน สามารถช่วยเผาผลาญพลังงานได้ถึง 400 - 500 กิโลแคลอรี่ ช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน หัวใจ ลดการสะสมของไขมัน ทั้งยังช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ กระดูก รวมทั้งข้อต่อต่างๆ ให้แข็งแรงและเคลื่อนไหวได้ดีขึ้น

โดยปกติคนเราจะเดินเฉลี่ยวันละ 900 - 5,000 ก้าวต่อวันเท่านั้น ทั้งๆ ที่การเดินที่จะส่งผลดีต่อร่างกายนั้นควรอยู่ที่ 10,000 ก้าวต่อคนต่อวัน ทั้งนี้ร่างกายจะเผาผลาญพลังงานมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับน้ำหนักตัว ความเร็วที่เดิน การแกว่งแขน การก้าวเท้า ซึ่งผู้ที่มีน้ำหนักตัวมากจะเผาผลาญพลังงานจากการเดินได้มากกว่าผู้ที่มีน้ำหนักตัวน้อย
เคล็ดลับสำหรับผู้ที่ตั้งใจที่จะเริ่มเดินให้ได้ครบ 10,000 ก้าว ควรเริ่มเดินแบบสะสม และค่อยๆ เพิ่มจำนวนก้าวเดินขึ้นเรื่อยๆ จนครบ 10,000 ก้าวต่อวันในที่สุด ทั้งนี้เพื่อให้ร่างกายสามารถปรับตัวได้ ไม่หักโหมจนเกินไป โดยอาจใช้เครื่องนับก้าวเดินเป็นผู้ช่วยในการจำ

นอกจากนี้ความถี่ในการเดิน ยังให้ผลลัพท์ที่ต่างกัน ดังนี้
• การเดินเพื่อควบคุมน้ำหนักให้คงที่ ควรเดินเฉลี่ยวันละประมาณ 45 นาที สัปดาห์ละ 3-4 วัน 
• การเดินเพื่อลดน้ำหนัก ควรเดินทุกวัน โดยการเดินสะสมครั้งละ 15 นาที วันละ 3 ครั้ง 
• การเดินเพื่อฟิตกล้ามเนื้อ หรือสร้างความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อ ควรเดินเร็วๆ สะสมให้ได้วันละ 30 นาที อย่างน้อยสัปดาห์ละ 5 วัน
จากทั้งหมดนี้จะเห็นได้ว่าการออกกำลังกายโดยวิธีการเดินนั้นมีประโยชน์มากมาย ขึ้นอยู่กับว่าในหนึ่งวันเราสามารถเดินในระยะทางมากน้อยเพียงใด หากคุณมีความตั้งใจที่จะใช้วิธีการเดินเพื่อสร้างสุขภาพที่ดีให้กับร่างกายแล้วล่ะก็ผลิตภัณฑ์เครื่องนับก้าวเดิน TANITA รุ่น FB-731 จะเป็นหนึ่งผู้ช่วยในการนับก้าวเดินของคุณในหนึ่งวันได้อย่างดีทีเดียว