Monday, July 11, 2011

ขนมปังชิ้นที่สาม วิธีเลี้ยงลูกของ ตัน ภาสกรนที


วันนี้ก่อนการเริ่มภาระกิจช่วงเช้า บังเอิญสุดที่รักเปิดบทความของคุณตันมาอ่านให้ฟังได้ยินคร่าวๆจับใจความอะไรได้ไม่มาก แต่โชคดีที่เขาไม่ปิดหน้านี้ลงเลยได้อ่านด้วยตัวเองอีกรอบ รู้สึกว่าชอบ และน่าจะเป็นข้อคิดดีๆให้กับตัวเอง เลยขอเอามาฝากให้เพื่อนๆอ่านกันครับลองอ่านกันดู แล้วลองคิดตามนะครับว่ามันเป็นจริงหรือเปล่า 


ขนมปังชิ้นที่สาม

 มีลูก 3 คน มีบ้าน 2 หลัง จะแบ่งยังไงดีครับ?
 เพื่อนผมคนหนึ่งคิดยังไงก็คิดไม่ตก เกษียณอายุราชการแล้วยังต้องทำงานงกๆ “สู้เพื่อลูก”ผ่อนบ้านหลังที่ 3 กลัวแบ่งสมบัติไม่ลงตัว เดี๋ยวจะนอนตายตาไม่หลับ ผมบอกถ้าไม่อยากวุ่นวาย..ง่ายนิดเดียว แค่ขายบ้านให้หมด แล้วใช้เงินให้มีความสุขกับชีวิตหลังเกษียณ เหลือเท่าไหร่ก็เท่านั้น..



 ตอนพ่อแม่ผมเสีย ไม่ได้มีเงินทองมากมายผมเลือกพระหนึ่งองค์เป็นสมบัติจากพ่อหยิบแหวนวงเดียวจากกองมรดกของแม่ สมบัติสุดท้ายไม่กี่ชิ้นของพ่อกับแม่ที่เทกองบนโต๊ะ..ผมกับพี่น้องแบ่งกันยังไงก็ลงตัว 

สำหรับผมในวันนี้สอนลูกตั้งแต่พวกเขายังเล็กว่าการศึกษาเท่าที่เขาต้องการคือสมบัติที่ผมจะให้  น้องกิฟท์ลูกสาวคนโตรู้ดีและเขาเข้าใจว่าผมไม่มีนโยบายเก็บเงินให้ลูกวันหนึ่งเขาบอกผมว่า “ป่าป๊า ไม่ต้องห่วงกิฟท์ ธุรกิจและเงินที่ป่าป๊าทำมาไม่ต้องเผื่อกิฟท์ หนูรับผิดชอบตัวเองได้”

ผมให้เงินเขาก้อนหนึ่ง ไปตั้งต้นร้านอาหารชื่ออิซีลี่ บริหารไม่นานก็เจ๊ง

เขาใช้โอกาสอีกครั้งกับเงินทุนที่เหลืออยู่ตั้งใจทำร้านอาหารใหม่ชื่อแซ่บอีลี่คราวนี้เขาไม่ประมาทและตั้งใจกว่าเดิมอีกหลายเท่า จนวันนี้ร้านแซ่บอีลี่ก็อยู่ได้

ลูกทุกคนของผมรู้ดีว่าสมบัติทุกอย่างที่ผมให้ ถ้าไม่ตั้งใจทำย่อมมีวันหมด ผมให้โอกาสการศึกษาเต็มที่..ที่เหลือเขาต้องเลือกทางเดินชีวิตด้วยตัวของเขาเองไม่ใช่ผมไม่รักลูก แต่ใช่ว่ามีเงินเยอะๆ แล้วจะดีสำหรับเขาผมอยากให้ลูกได้รู้จักกับความยากลำบาก ไม่อยากให้เคยชินกับความสบาย

ไปต่างประเทศด้วยกันทุกครั้ง ลูกๆ ทุกคนต้องนั่งเครื่องบินชั้นอิโคโนมี  บางครั้งน้องเก็ตลูกชายยังเป็นเด็ก เขาเคยแผลงฤทธิ์ไม่พอใจทำไมไม่ได้นั่งบิซิเนสคลาสด้วยกัน  วันนี้เขาอาจจะยังไม่เข้าใจ แต่โตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ทำงานหาเงินเองได้เมื่อไหร่วันนั้นเขาจะเข้าใจได้ด้วยตัวเอง

ประสบการณ์สอนให้ผมรู้ว่าเงินเป็นได้ทั้งความทุกข์และความสุข

ในวันที่ต้องดิ้นรน เงิน คือ สิ่งจำเป็น เป็นขนมปังชิ้นแรกที่ประทังชีวิต 

 ขนมปังชิ้นที่สอง คือ ความอร่อย มีชีวิตที่สุขสบาย หายเหนื่อย 
มากกว่านั้น...กินเท่าไหร่ก็เป็นส่วนเกิน 

 ขนมปังชิ้นที่สาม คือ ยาพิษอะไรที่มากเกินไปมักจะไม่มีประโยชน์ กลายเป็นให้โทษมากกว่าคุณ..เงินก็เช่นกัน...

 ถ้าคุณรู้ล่วงหน้าว่าจะมีบุญหล่นทับร่ำรวยเป็นพันๆ ล้านคุณอาจไม่รู้จักคุณค่าของความพยายาม  ชีวิตนี้อาจไม่เคยรู้สึกว่าจะต้องออกแรงดิ้นรนอะไรอีกต่อไป  เงินถ้าไม่รู้จักใช้ ไม่รู้จักหา ไม่รู้จักคุณค่า...มีเท่าไหร่ก็ไม่พอ

ถ้าหน้าที่ของพ่อแม่คือการมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูก เราควรรักลูกแบบไหน?

ลองถามตัวเองดูว่าเรากำลังยื่นขนมปัง "ชิ้นที่สาม" ที่เต็มไปด้วยยาพิษให้ลูกหรือเปล่า 

ตัน ภาสกรนที
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

No comments:

Post a Comment